สหรัฐเผยน้ำมันดิบสำรองร่วง 1.1 ล้านบาร์เรล เบนซินเพิ่ม 800,000 บาร์เรล

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 26, 2007 06:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ค. ร่วงลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 351 ล้านบาร์เรล ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์คาดการณ์ไว้ 
ขณะที่น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สู่ระดับ 204.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 510,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 123.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับขึ้นเพียง 730,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่า อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 91.7% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 737,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนยอดนำเข้าน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 3,000 บาร์เรลจากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าระดับของปีที่แล้วประมาณ 1.2%
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ