ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ปัญหาการผลิตในโทเทล ดันราคาน้ำมันพุ่งปิด 75.92$

ข่าวต่างประเทศ Friday July 20, 2007 07:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 87 เซนต์เมื่อคืนนี้ (19 ก.ค.) โดยราคาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากบริษัทโทเทล เอสเอ ประกาศ "ภาวะสุดวิสัย (force majeure)" ที่ต้องลดปริมาณการผลิตน้ำมันจากบ่อน้ำมันในแองโกลา นอกจากนี้ นักลงทุนยังส่งแรงซื้อเข้าหุนนสัญญาเดือนส.ค.อย่างหนาแน่นก่อนที่สัญญาเดือนดังกล่าวจะครบกำหนดส่งมอบในวันพรุ่งนี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 75.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับ 76 ดอลลาร์ชั่วเวลาสั้นๆในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 91 เซนต์ ปิดที่ 77.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ขยับลง 39 เซนต์ ปิดที่ 2.1914 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ 2.1149 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากบริษัทโทเทล เอสเอประกาศ "ภาวะสุดวิสัย" ที่ต้องลดปริมาณการผลิตจากบ่อน้ำมันในแองโกลลงสู่ระดับ 127,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่ผลิตได้ 240,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปัญหาทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม โทเทลคาดว่าจะสามารถกลับมาผลิตน้ำมันได้เต็มสูบอีกครั้งภายใน 2-3 วันนี้
ภาวะสุดวิสัยเป็นส่วนหนึ่งที่ระบุในสัญญาซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อช่วยให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระจากข้อบังคับทางกฎหมาย เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาทิ ข้อพิพาทด้านแรงงาน และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้น้ำหนักกับสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในไซบีเรีย ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมัน เนื่องจากเปลวเพลิงได้ลุกลามเข้าใกล้บ่อน้ำมันซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทก๊าซพร็อมเนฟท์ แต่เจ้าหน้าที่ของบริษัทยืนยันว่าบ่อน้ำมันแห่งนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ
นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นว่า "ยากที่จะมองภาพรวมในตลาดให้ชัดเจนได้ในเวลานี้ เนื่องจากมีปัจจัยใหม่ๆเข้ามารุมเร้าอยู่ตลอดเวลา เมื่อวันพุธที่ผ่านมาราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐลดลงอย่างรุนแรง แต่ปัจจัยล่าสุดคือปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทน้ำมันและภัยพิบัติทางธรรมชาติ"
"นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสำคัญกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนที่ว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวสูงขึ้น และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนขยายตัวขึ้น 11.9% ในไตรมาส 2 การที่เศรษฐกิจจีนขยายตัวรวดเร็วและนำเข้าน้ำมันในปริมาณมาก ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นด้วย" นายอีแวนส์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ