ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 62 เซนต์เมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) แต่ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากมีข่าวว่า บริษัทบีพีได้ประกาศปิดโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่เพื่อซ่อมบำรุง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 62 เซนต์ ปิดที่ 72.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ดีดขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 2.3446 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.รูดลง 0.23 เซนต์ ปิดที่ 2.0928 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค ปรับตัวขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 75.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยที่สถานีบริการน้ำมันทั่วสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 เซนต์ แตะระดับ 2.965 ดอลลาร์ต่อแกลลอนเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่าความวิตกกังวลเรื่องการปิดโรงกลั่นเป็นปัจจัยสำคัญที่ดันราคาน้ำมันเบนซินในตลาดล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้น
"บริษัทบีพีประกาศปิดโรงกลั่นน้ำมันซึ่งตั้งอยู่ในเมืองวิทติ้ง รัฐอินเดียนา โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังในการผลิตน้ำมันดิบ 410,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งผลิตได้มากกว่าโรงกลั่นอีกหลายแห่ง" นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าว
เจ้าหน้าที่ของบริษัทบีพีเปิดเผยว่า สาเหตุที่บีพีต้องปิดโรงกลั่นแห่งนี้ก็เพราะพบรอยรั่วที่ท่อส่งน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาซ่อมแซมประมาณ 7 วัน อย่างไรก็ตาม บีพียังไม่สามารถระบุว่าได้ว่าโรงกลั่นแห่งนี้จะสามารถดำเนินการผลิตได้อีกครั้งเมื่อใด
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับอิทธิพลจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดว่า ความต้องการน้ำมันของจีนในปีหน้าจะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 8.05 ล้านบาร์เรล และจะเพิ่มขึ้นแตะ 9.96 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2555
IEA กล่าวว่า จีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ทำให้ความต้องการในภูมิภาคเอเชียเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 48.9% ของความต้องการในประเทศนอกกลุ่มโออีซีดีภายในปี 2555
ขณะเดียวกัน IEA เตือนว่า ภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมันจะเพิ่มขึ้นไปจนถึงปี 2555 เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าความสามารถในการผลิตน้ำมันสำรองของโอเปคจะลดลงสู่ระดับต่ำสุด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--