ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลดลง 24 เซนต์เมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากมรายงานว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับโรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐเริ่มบรรเทาลงแล้ว และข่าวที่ว่ากลุ่มโอเปคอาจจะไม่เพิ่มเพดานการผลิต
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวลง 24 เซนต์ ปิดที่ 71.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.39 เซนต์ ปิดที่ 2.0154 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.รูดลง 1.34 เซนต์ ปิดที่ 1.9963 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.ปรับตัวลง 40 เซนต์ ปิดที่ 70.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายอับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มโอเปคกล่าวว่า เขาเชื่อว่าตลาดน้ำมันโลกมีปริมาณน้ำมันที่เหมาะสม ซึ่งบ่งชี้ว่าโอเปคจะคงเพดานการผลิตไว้ที่ระดับปัจจุบัน ในการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ย.
"ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้จนถึงสิ้นปีนี้ อาจจะทำให้กลุ่มโอเปคยังคงเพดานผลิตที่ระดับเดิม อย่างน้อยที่สุดก็ในการประชุมเดือนก.ย.นี้" นายโทบิน กอเรย์ นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ของออสเตรเลีย แสดงความคิดเห็น
นายกอเรย์กล่าวว่า การที่ปัญหาในโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งของสหรัฐเริ่มคลี่คลายลงได้กดราคาน้ำมันลดลงด้วย ซึ่งรวมถึงข่าวที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซิทโก ปิโตรเลียในรัฐเท็กซัส สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้แล้ว หลังจากเกิดปัญหาที่เครื่องอัลไคเลชั่น ยูนิต โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการผลิต 156,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่บริษัทอาลอน ยูเอสเอเปิดเผยว่า เครื่องฟลูอิด แคทาลิติก แครกเกอร์ที่โรงกลั่นในเมืองบิ๊กสปริง รัฐเท็กซัส สามารถดำเนินการผลิตในระดับปกติแล้วหลังจากเกิดปัญหาขัดข้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ สำนักข่าวดาวโจนส์ นิวส์ไวร์รายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทวาเลโร เอนเนอร์จีในรัฐเท็กซัสได้เริ่มดำเนินการผลิตแล้ว แม้ในเบื้องต้นจะผลิตได้ในอัตราที่ต่ำก็ตาม และโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเชฟรอนในมิสซิสซิปปี้ได้เริ่มดำเนินการผลิตน้ำมัน 330,000 บาร์เรลต่อวันแล้วเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีปฏิกริยาในด้านลบต่อเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเชฟรอน ซึ่งส่งผลให้เชฟรอนต้องยกเลิกคำสั่งซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซูเอล่าในปริมาณ 550,000 บาร์เรล โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์น้ำมันดิบ และคาดว่าการลำเลียงขนส่งน้ำมันดิบบางส่วนจะต้องถูกยกเลิกหรือเปลี่ยนไปส่งยังโรงกลั่นน้ำมันอื่นๆในเครือข่ายของเชฟรอนที่มีอยู่ทั่วโลก
กระทรวงพลังงานจะเปิดเผยในคืนวันพุธ ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า น้ำมันเบนซินสำรองอาจลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดิบสำรองอาจลดลง 600,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--