ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.50 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เพราะได้รับผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ที่แข็งแกร่งเกินคาด
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 673.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 671.80-676.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 11.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 4.7 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 0.4 เซนต์ ปิดที่ 3.348 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,260.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ร่วงลง 6.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 335.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 20 เซนต์
นายจอห์น เนดเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทคิทโก บุลเลียน ดีลเลอร์กล่าวว่า "นักลงทุนในตลาดทองคำไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่ นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทอง"
เมื่อคืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัวขึ้น 4% ต่อปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวขึ้นเพียง 3.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--