ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: คลายวิตกพายุ"ดีน" กดราคาน้ำมันร่วงปิดที่ 71.12$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 86 เซนต์เมื่อคืนนี้ (20 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่าพายุเฮอริเคน"ดีน"ได้เปลี่ยนทิศทางโคจรออกจากทำเลอันเป็นที่ตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก และเคลื่อนตัวเข้าสู่คาบสมุทรยูคาตันในเม็กซิโก 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 86 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 71.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.05-71.77 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.64 เซนต์ ปิดที่ 1.9809 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.รูดลง 10.23 เซนต์ ปิดที่ 1.9365 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 59 เซนต์ ปิดที่ 69.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า พายุเฮอริเคนดีนได้เปลี่ยนเส้นทางโคจรไปยังคาบสมุทรยูคาตานในเม็กซิโก และเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก 
          พายุเฮอริเคนดีมีความรุนแรงขั้น 4 โดยเมื่อเวลาประมาณ 01.00น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ พายุเฮอริเคนดีนเคลื่อนตัวอยู่ห่างจากเมืองเบลิซ ซิตี้ของประเทศเบลิซไปทางทิศตะวันออกประมาณ 530 กิโลเมตร  ทั้งนี้ พายุดีนเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 21 ไมล์ต่อชั่วโมง และมีกำลังลมสูงสุดราว 150 ไมล์ต่อชั่วโมง และคาดว่าพายุจะพัดผ่านชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรยูคาตานในเช้าวันอังคาร
          นายแอนดรูว เลโบว์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "ตลาดคลายความวิตกกังวลทันทีเมื่อรู้ข่าวว่าพายุเฮอริเคนดีนเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก"
          อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า พายุเฮอริเคนดีนอาจจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮริเคนระดับที่ 5 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุดตามมาตราแซฟฟีร์-ซิมป์สัน โดยมีกำลังลมไม่ต่ำกว่า 156 ไมล์ต่อชั่วโมง
          เมื่อวานนี้ รัฐบาลจาไมก้าได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน เนื่องจากพายุเฮอริเคนดีนได้พัดเข้าทะเลแคริบเบียนและพัดเข้ากระหน่ำจาไมก้า 
          นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานน้ำมันสำรองซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะร่วงลง 2.9 ล้านบาร์เรล น้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 900,000 บาร์เรล แต่คาดว่าน้ำมันกลั่นสำรองจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล