ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: อิทธิพลปัญหาซับไพรม์ กดราคาน้ำมันร่วงปิด 71.47$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง 12 เซนต์เมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาตลาดซับไพรม์ของสหรัฐได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดพลังงานและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวลง 12 เซนต์ ปิดที่ 71.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.08 เซนต์ ปิดที่ 1.9548 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1.8 เซนต์ ปิดที่ 1.9712 ดอลลาร์ต่อแกลลอน 
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 70.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายจิม เวลล์ นักวิเคราะห์จากไอเอ็นจี โกลบอล เนเชอรัล รีซอสเซส กล่าวว่า "นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่วิกฤตการณ์ตลาดปล่อยกู้จำนองซับไพรม์ในสหรัฐลุกลามจนส่งผลกระทบถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดพลังงาน นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวม"
          "หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดพลังงานและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ" นายเวลล์กล่าว
          ขณะที่นายสตีฟ บรูส นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า วิกฤตการณ์ซับไพรม์ที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกร่วงลงด้วยนั้น ทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และยังไม่คิดที่จะทำโพสิชั่นใหม่ เพื่อรอให้สถานการณ์ในตลาดหุ้นบรรเทาลงมากกว่านี้
          ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาตลาดซับไพรม์ในสหรัฐทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อวาณิชธนกิจบีเอ็นพี พาริบาส์ของฝรั่งเศส ได้ประกาศปิดกองทุน 3 แห่งที่เข้าไปลงทุนและได้รับผลกระทบอย่างหนักในตลาดซับไพรม์ อีกทั้งยังห้ามลูกค้าไถ่ถอนเงินจากกองทุนหลายแห่งที่บีเอ็นพีบริหารอยู่ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก