ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองพุ่งปิดที่ 677.50$ หลังดอลล์อ่อนเทียบยูโร

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 9.10 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายมองว่าราคาทองปรับตัวขึ้นเพราะแรงซื้อทางเทคนิค
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 677.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 9.10  ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 666.70-679.00 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 11.94 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 30.0 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.35 เซนต์ ปิดที่ 3.35 ดอลลาร์ต่อปอนด์ 
          ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,247.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 1.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 331.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 3.95 ดอลลาร์
          นายแอ็กเซล เมิร์ก นักวิเคราะห์จากบริษัทเมิร์ก ฮาร์ด เคอร์เรนซี ฟันด์ กล่าวว่า "การที่ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ทำให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดปริวรรตเงินตราและเข้าซื้อสัญญาทองคำอย่างคับคั่ง ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 9 ดอลลาร์"          
          "กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 18 ก.ย.นี้เพราะมีเป้าหมายที่จะคลายความตึงตัวในตลาดสินเชื่อและกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงและทำให้นักลงทุนมองว่าตลาดปริวรรตเงินตราไม่น่าดึงดูดใจในขณะนี้"
          "นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบนิวยอร์กที่พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับ 71.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 5.9% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 เดือน" นายเมิร์กกล่าว