ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันร่วงปิดที่ 71.59$ เหตุวิตกแนวโน้มศก.สหรัฐ

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 56 เซนต์เมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากวาณิชธนกิจบีเอ็นพี พาริบาส์ ของฝรั่งเศสประกาศปิดกองทุน 3 แห่งที่ลงทุนในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่ให้ความสนใจกับข่าวคาดการณ์เรื่องพายุเฮอริเคนลูกใหม่
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 56 เซนต์ ปิดที่ 71.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.50-72.40 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 2.24 เซนต์ ปิดที่ 1.9892 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.37 เซนต์ ปิดที่ 1.9340 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 70 เซนต์ ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นาย ทอม เบนท์ นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ คอมโมดิตีส์ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า "ความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนชะลอคำสั่งซื้อ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมมองว่าในระยะนี้ราคาน้ำมันได้รับอิทธิพลจากเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเก็งกำไรและเฮดจ์ฟันด์"
          "ตลาดถูกปกคลุมด้วยปัจจัยทางจิตวิทยามากกว่าที่จะเคลื่อนไหวบนปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้รวมถึงรายงานของสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ (NOAA)ที่ระบุว่า มีความเป็นไปได้ถึง 85% ที่จะมีพายุเฮอริเคนลูกใหม่ก่อตัวขึ้น ซึ่งราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นรับข่าวพยากรณ์ดังกล่าวเพียงชั่วครู่ ก่อนที่จะปรับตัวลดลง" นายเบนท์กล่าว
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนพลังงานในสหรัฐ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 3 ส.ค.ทรุดตัวลง 4.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 340.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรอง ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 203 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 750,000 บาร์เรล