ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพ ดันราคาน้ำมันพุ่งปิด 69.83$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 57 เซนต์เมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากตลาดหุ้นหลายแห่งเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 69.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.42 เซนต์ ปิดที่ 1.9232 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.27 เซนต์ ปิดที่ 1.9610 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายแอนโทนี ฮอฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฟีแมท ยูเอสเอกล่าวว่า ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากตลาดหุ้นหลายแห่งเริ่มมีเสถียรภาพ หลังจากก่อนหน้านี้ ตลาดถูกปกคลุมด้วยความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐและวิกฤตการณ์ตลาดปล่อยกู้จำนอง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนัก
          ตลาดน้ำมันนิวยอร์กขานรับรายงานจากกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 17 ส.ค.พุ่งขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 337.1 ล้านบาร์เรล
          อย่างไรก็ตาม น้ำมันเบนซินสำรองลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล หรือเกือบ 3% แตะระดับ 196.2 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 129 ล้านบาร์เรล
          นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่าความต้องการน้ำมันเบนซินเฉลี่ยเมื่อ 4 สัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าระดับเฉลี่ยของปีที่แล้วอยู่ประมาณ 0.6% ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2% สู่ระดับ 91.6%
           ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลงสู่ระดับ 927,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ1.213 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2% สู่ระดับ 91.6 % เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในเขตกัลฟ์โคสต์ลดการกลั่นน้ำมันลง
          รายงานระบุว่าพายุเฮอริเคน"ดีน"ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินเม็กซิโกแล้ว และได้พัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเมืองแคมเปเช่ ขณะที่มีกำลังแรงขึ้นและพัดผ่านคาบสมุทรยูคาทัน สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทางการเม็กซิโกอพยพผู้คนกว่า 10,000 คนออกจากเมืองทักซ์แพน ซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งของเม็กซิโก ก่อนที่พายุลูกดังกล่าวจะพัดถล่มในช่วงบ่าย และทางการได้สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งทั่วรัฐ
          นอกจากนี้ บ่อน้ำมันทั้งหมดในพื้นที่ได้ถูกปิดตัวลงก่อนที่พายุดีนจะพัดถล่ม ซึ่งส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเฉลี่ยรายวันลดลง 2.7 ล้านตัน และก๊าซธรรมชาติลดลง 2.6 พันล้านลูกบาศก์เมตร