มาเลเซียคาดผลผลิตยางครึ่งปีหลังปี 50 เพิ่มเล็กน้อยหลังราคาน้ำมันพุ่ง

          เจ้าหน้าที่รัฐบาลมาเลเซียคาดการณ์ว่า ผลผลิตยางของมาเลเซียจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถิติปีที่แล้วเล็กน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น
          "แม้ว่าผลผลิตยางของมาเลเซียในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 4.3% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่เราคาดว่าผลผลิตยางในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2550 จะปรับตัวเพิ่มขึ้น" นายคามารูล บาฮาเรน ประธานคณะกรรมการยางมาเลเซีย (MRB) กล่าว
          ทั้งนี้ มาเลเซียสามารถผลิตยางธรรมชาติในช่วงเดือนม.ค.-พ.ค.ได้ที่ระดับ 489,632 ตัน
          การซื้อขายยางธรรมชาตินั้นเคลื่อนไหวตามการซื้อขายน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด เพราะวัตถุดิบทั้ง 2 ชนิดนี้ถูกนำมาใช้ในการผลิตยางรถยนต์ทดแทนกันได้ 
          "ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกระตุ้นให้เจ้าของสวนยางรายย่อยกรีดยางเพิ่มขึ้น ดังนั้นเราควรผลิตยางให้ได้ 1.2 ล้านตันหรือมากกว่านั้น หากราคายางยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น" หนังสือพิมพ์นิวส์ สเตรท ไทม์รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายคามารูล
          เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่เป็นเจ้าภาพจัดการสัมนาในหัวข้อการนำยางที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการยางมาเลเซีย ที่เมืองชาห์ อลัม เมืองหลวงของรัฐสลังงอร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องระบบผู้ผลิตยางแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Rubber Manufacturer) ของ MRB ซึ่งเป็นช่องทางการสื่อสารด้านการค้ายางระหว่างผู้ควบคุมและผู้ผลิตยางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้น ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการสัมนาในครั้งนี้ ซึ่งมีผู้ผลิตยาง 38 รายจากรัฐยะฮอร์ มะละกา เนกรีเซมบีลัน สลังงอร์ และรัฐเคดาห์เข้าร่วมการสัมนาในครั้งนี้ด้วย
          นอกจากนี้ รัฐบาลยังวางเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จำนวน 2,000 เฮคเตอร์ต่อปี และปรับปรุงราคายางเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับเจ้าของสวนยางรายย่อยภายใต้แผนพัฒนาของมาเลเซียฉบับที่ 9
          มาเลเซียเป็นประเทศผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ติดอันดับที่ 3 ของโลก รองจากอินโดนีเซียและไทย โดยเป็นผู้ผลิตถุงมือยาง ถุงยาง และสายยางรายใหญ่ที่สุด ซึ่งสามารถส่งออกสินค้าดังกล่าวไปกว่า 160 ประเทศทั่วโลก สำนักข่าวซินหัวรายงาน