กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 24 ส.ค. ร่วงลง 3.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 66,000 บาร์เรล แตะระดับ 993,000 บาร์เรลต่อวัน และยอดนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 993,000 บาร์เรล แตะระดับ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยมีอยู่มากกว่า 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 0.5%
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ คาดว่าน้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล แต่คาดว่าน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล จะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการกลั่นจะมันจะเพิ่มขึ้น 1.5%
น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--