ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 95 เซนต์เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อน"ดีน"อาจเคลื่อนตัวเข้ากระหน่ำแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก ขณะเดียวกันมีรายงานว่าพายุโซนร้อน"เอริน"ได้ก่อตัวขึ้นในอ่าวเม็กซิโกแล้ว
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 95 เซนต์ ปิดที่ 73.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นเหนือระดับ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงเช้า
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนก.ย.ดีดขึ้น 3.5 เซนต์ ปิดที่ 2.0088 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 4.44 เซนต์ ปิดที่ 2.0269 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายทิม อีแวน นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "ตลาดน้ำมันนิวยอร์กซึ่งอ่อนไหวต่อรายงานสภาพอากาศนั้น ได้รับอิทธิพลจากข่าวพายุโซนร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่าน้ำมันดิบสำรองร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวลดลงเกินคาด"
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อน"ดีน" กำลังทวีความรุนแรงขึ้นในทะเลคาริบเบียน และคาดว่าจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนภายในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เทรดเดอร์กังวลว่าพายุดีนอาจสร้างความเสียหายต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก และทำให้เกิดภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมัน
นอกจากนี้ ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติรายงานว่า พายุโซนร้อน"เอริน" ได้ก่อตัวขึ้นทางตอนใต้ของอ่าวเม็กซิโกแล้วและกำลังทวีความรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าพายุเอรินจะไม่สร้างความเสียหายต่อการผลิตในอ่าวเม็กซิโกมากนัก
สำนักงานบริหารสินแร่ของสหรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้อพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง 5 แห่งแล้ว โดยคาดว่าพายุ"เอริน"จะเคลื่อนตัวขึ้นบกที่ชายฝั่งเท็กซัสในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี แต่คาดว่าพายุเอรินจะไม่ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอริเคน นอกจากนี้ ทางสำนักงานยืนยันว่ายังไม่มีการปิดแท่นผลิตน้ำมันในขณะนี้ แต่มีการปิดแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติไปแล้วประมาณ 5 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
นอกเหนือจากข่าวพายุแล้ว ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับอิทธิพลจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 10 ส.ค.ทรุดตัวลง 5.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 335.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 2.1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 201.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 400,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงเชื้อเพลิงดีเซลและน้ำมันฮีทติ้งออยล์ เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล สู่ระดับ 127.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 91.8 % ซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยลดลง 184,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.213 ล้านบาร์เรลต่อวัน และยอดนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 125,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9.873 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ความต้องการน้ำมันเบนซินโดยเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่ 9.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 0.4%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--