ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: แรงขายทำกำไร กดราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ 79.10$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 99 เซนต์เมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 10 วันทำการ เนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 99 เซนต์ ปิดที่ 79.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 2.0364 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.12 เซนต์ ปิดที่ 2.2078 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          นายทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากบริษัทออยล์ไพรซ์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส กล่าวว่า "ราคาน้ำมันfb[ชะลอตัวตัวลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร แต่มีนักวิเคราะห์บางคนมองว่าเป็นแรงขายทางจิตวิทยา หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา"
          เมื่อวันพฤหัสบดี ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า อิทธิพลของพายุเฮอริเคนอุมเบอร์โต้ได้ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งที่ท่าเรืออาร์เธอร์ในรัฐเท็กซัสขัดข้อง โรงกลั่นน้ำมันที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ รวมถึงโรงกลั่นของบริษัทวาเลโร เอ็นเนอร์จี ซึ่งมีกำลังการผลิต 325,000 บาร์เรลต่อวัน โรงกลั่นของบริษัทโทเทลซึ่งมีกำลังการผลิต 180,000 บาร์เรลต่อวัน และโรงกลั่นของบริษัทโมทิวา เอ็นเตอร์ไพร์ส ซึ่งมีกำลังการผลิต 285,000 บาร์เรลต่อวัน
          นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับอิทธิพลจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 7 ก.ย.ทรุดตัวลงอย่างหนักถึง 7.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ระดับ 322.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล