ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 74 เซนต์เมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่ให้ความสนใจต่อการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต แต่กลับแสดงความกังวลต่อกระแสคาดการณ์ที่ว่าปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐจะปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchang) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 78.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ดีดขึ้น 0.25 เซนต์ ปิดที่ 1.9811 ดอลลาร์ต่อแกลลอน สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.11 เซนต์ ปิดที่ 2.1827 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาก๊าซธรรมชาติส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 4.3 เซนต์ ปิดที่ 5.934 ดอลลาร์ ต่อ 1,000 ลูกบาศก์ฟุต
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 90 เซนต์ ปิดที่ 76.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ใช้น้ำมันเรียกร้องให้โอเปคเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อผ่อนคลายภาวะอุปทานพลังงานตึงตัว และบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นหลังจากที่ราคาน้ำมันทะยานขึ้นแตะระดับ 77 ดอลลาร์/ บาร์เรล
ทั้งนี้ นายอับดุลเลาะห์ เอล บาดรี เลขาธิการโอเปคกล่าวว่า การที่โอเปคตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะควบคุมราคาน้ำมัน โดยเป้าหมายหลักก็เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดการเงิน และผ่อนคลายความกังวลของสมาชิกโอเปคบางประเทศเท่านั้น ส่วนการประชุมโอเปคครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ซึ่งในเวลานั้นโอเปคจะประเมินภาวะอุปทานและอุปสงค์ทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆต่อไป
นายแอดดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากทีเอสเอฟ เอ็นเนอร์จี ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า "แม้โอเปคตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต แต่นักลงทุนมองว่าเป็นเพิ่มกำลังการผลิตเฉพาะกิจ แต่ไม่ได้เพิ่มเพดานการผลิตซึ่งจะมีผลระยะยาวต่อตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อการคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะยังคงทรุดตัวลงในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 7 ก.ย."
"มีข่าวลือแพร่สะพัดในตลาดว่า ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในกลุ่มโอเปค เป็นตัวตั้งตัวตีในการรณรงค์ให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในครั้งนี้ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าซาอุดิอาระเบียอาจวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะทำให้ความต้องการน้ำมันลดลง ซึ่งจะทำให้รายได้ของกลุ่มโอเปคลดลงด้วย" นายอาร์มสตรองกล่าว
นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธนี้นั้น จะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล น้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--