ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 8.80 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงเกือบแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้กลุ่มโอเปคตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตอีก 5 แสนบาร์เรลต่อวันก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchang) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 721.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 8.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 711.50-723.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 12.835 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.5 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.บวกขึ้น 13.15 เซนต์ ปิดที่ 3.3878 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,302.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 338.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 2.65 ดอลลาร์
นายทอม โพว์ลิค นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า "นักลงทุนจำนวนมากปลีกตัวออกจากตลาดปริวรรตเงินตราและส่งแรงซื้อเข้าหนุนสัญญาทองคำเดือนธ.ค.อย่างหนาแน่น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนัก"
"นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆที่เคลื่อนไหวในระดับสูง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นเหนือระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้กลุ่มโอเปคมีมติเพิ่มกำลังการผลิต"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--