ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทำการคืนวานนี้ (21 กันยายน) ปรับตัวลดลง จากแรงเทขายทำกำไร อย่างไรก็ดี นักลงทุนวิเคราะห์เชื่อว่า ราคาน้ำมันจะวิ่งขึ้นไปทำลายสถิติสูงสุดต่อไป และราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในทิศทางกับน้ำมันดิบ
ถึงขณะนี้ ราคาน้ำมันเบนซินยังคงทรงตัวหรือลดลงด้วยซ้ำ แม้ว่า ราคาน้ำมันจะกระโดดขึ้นไปแตะระดับนิวไฮระดับใหม่เป็นเวลา 8 วันทำการติดต่อกันที่ตลาดนิวยอร์กมาแล้วก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 16 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 82.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 2.06 เซนต์ ปิดที่ 2.1145 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 0.47 เซนต์ ปิดที่ 2.2562 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนเพิ่มขึ้น 21 เซนต์ สู่ 79.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
"จากนี้ไปหากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 บาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซินก็จะเพิ่มตาม 2 1/2 เซนต์ (ต่อแกลลอน)" ทอม โคลซ่า หัวหน้านักวิเคราะห์น้ำมันประจำ ออยล์ ไพรซ์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส กล่าว
ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นช่วงนี้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ลง 0.5% ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความวิตกต่อพายุโซนร้อนที่จะเข้ากระหน่ำโรงงานน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโก
อนึ่ง นักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยและบทบาทได้ฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ซึ่งดึงดูดให้เกิดการลงทุนดอลลาร์ครั้งใหม่ในตลาดพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆซื้อขายในรูปของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งมีราคาถูกกว่าในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากสกุลเงินที่พวกเขาถืออยู่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: ruedee@infoquest.co.th--