กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 2 ก.ย. ร่วงลง 3.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 329.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 191.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 132.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.8% แตะระดับ 92.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับเดิม
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--