นายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่เคลื่อนไหวในระดับสูงนานนัก เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในขณะนี้มาจากพายุเฮอริเคนที่พัดกระหน่ำฐานการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการผลิตน้ำมันในสหรัฐ ทั้งนี้ หากฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกสิ้นสุดลง ราคาน้ำมันก็จะชะลอตัวลง
การแสดงความคิดเห็นของเลขาธิการโอเปคมีขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นายอัล-บาดรี ไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่าโอเปคจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกหรือไม่ ในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ แต่กล่าวเพียงว่าโอเปคจะติดตามข้อมูลน้ำมันดิบสำรองในสหรัฐและประเทศทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่กี่วันมานี้ ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า อิทธิพลของพายุเฮอริเคนอุมเบอร์โต้ได้ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าในโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งที่ท่าเรืออาร์เธอร์ในรัฐเท็กซัสขัดข้อง ส่งผลกระทบต่อโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทวาเลโร เอ็นเนอร์จี ซึ่งมีกำลังการผลิต 325,000 บาร์เรลต่อวัน และโรงกลั่นของบริษัทโทเทลซึ่งมีกำลังการผลิต 180,000 บาร์เรลต่อวัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--