ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์พุ่งทะยานแตะ $82.32 หลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.50%

          ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์พุ่งทะยานขึ้นทะลุระดับ 82 ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ (19 ก.ย.) ซึ่งนับเป็นการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ปรับลดอัตราดอเบี้ยโดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ          
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 09.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 82.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล พุ่งขึ้น  81 เซนต์จากระดับการซื้อขายที่สหรัฐเมื่อคืนนี้ที่ 81.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          วิคเตอร์ ชุม นักวิเคราะห์จากเปอร์วิน แอนด์ เกทซ์ ในสิงคโปร์เปิดเผยว่า "เรากำลังอยู่ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น" 
          ด้านโทนี่ นูนาน นักวิเคราะห์จากบริษัทมิตซูบิชิ คอร์ป ในกรุงโตเกียวเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังจากที่ราคาได้พุ่งขึ้นฝ่าระดับแนวต้านทางเทคนิคแล้ว ซึ่งผมเชื่อว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นแตะที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล        
          เขากล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.50% นั้นมีเป้าหมายที่จะช่วยคลายความหวั่นวิตกต่อภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งทรุดตัวลงจากวิกฤติที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์
          "การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้สร้างปฏิกิริยาอย่างใหญ่หลวง โดยได้หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งทะยานขึ้น และช่วยคลายความหวั่นวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อีกทั้งยังส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย"          
          นูนานกล่าวว่า ความวิตกกังวลต่อปริมาณน้ำมันในสต็อคที่ลดลงในช่วงก่อนที่จะถึงฤดูหนาวในปีนี้จะมาถึงนั้น ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าเราอาจเผชิญภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวท่ามกลางอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น