ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ 81.51$ หลัง FED ลดดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 19, 2007 07:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดระดับใหม่เมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลง 0.50% ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว และจะทำให้ความต้องการพลังงานปรับตัวสูงขึ้นด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 81.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.61 เซนต์ ปิดที่ 2.0603 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.36 เซนต์ ปิดี่ 2.2423 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 61 เซนต์ ปิดที่ 77.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายแบรด แซมเพิลส์ นักวิเคราะห์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัทซัมมิท เอ็นเนอร์จี เซอร์วิสกล่าวว่า "นักลงทุนคาดการณ์กันไว้แล้วว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น แต่การที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% นั้น นับว่ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนส่งแรงซื้อเข้าตลาดอย่างคับคั่ง"
"นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น" นายแซมเพิลส์กล่าว
ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 14 ก.ย.จะลดลง 2 ล้านบาร์เรล น้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม นายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะไม่เคลื่อนไหวในระดับสูงนานนัก เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในขณะนี้มาจากพายุเฮอริเคนที่พัดกระหน่ำฐานการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการผลิตน้ำมันในสหรัฐ ทั้งนี้ หากฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกสิ้นสุดลง ราคาน้ำมันก็จะชะลอตัวลง
โอเปคคาดว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2550 จะเพิ่มขึ้น 1.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.51% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้ว ส่วนในปี 2551 นั้น โอเปคคาดว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 1.57% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนที่แล้วเช่นกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ