นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (AFET) กล่าวถึงภาพรวมตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าในปีนี้ว่า แนวโน้มของมูลค่าและปริมาณการซื้อขายคงจะลดลงจากปีก่อนเกือบครึ่ง ตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวลง และมาตรการต่างๆของทางการ
"หากเทียบกันแล้วครึ่งแรกปีนี้ มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 350 สัญญา/วัน จากที่หวังว่าจะได้เห็นปริมาณการซื้อขายในระดับพันสัญญา/วัน มูลค่าซื้อขาย 120-130 ล้านบาท/วัน จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 600 ล้านบาท...ถือว่าปีนี้เหนื่อยเป็นพิเศษ" นางนภาภรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังก็ยังไม่น่าจะปรับตัวดีขึ้น เพราะหากสังเกตตลาด TOCOM เองวอลุ่มก็หายไปเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นการปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งคาดว่าอาจจะต้องรอถึงปีหน้าที่จะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้น
"ตอนนี้ยังทำอะไรมากไม่ได้ คงต้องรอรัฐบาลใหม่ ซึ่งหากมีรัฐบาลใหม่แล้วเราก็คงจะยื่น Master Plan ให้" นางนภาภรณ์ กล่าว
สำหรับสินค้าใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ และปาล์มน้ำมัน ถ้าทุกอย่างลงตัวก็คาดว่าอย่างเร็วคงสามารถนำเข้ามาเทรดได้ต้นปี 51
ส่วนสินค้าน้ำยางข้น และยางแท่ง ที่ได้ถอนออกไปเพื่อปรับปรุงข้อกำหนดการซื้อขายให้เป็น Both Options เหมือนข้าวขาว 5% BWR5 ขณะนี้กำลังเร่งพิจารณาสำหรับตัวน้ำยางข้น เพื่อให้กลับเข้ามาซื้อขายทันในปีนี้ หรืออย่างช้าคือ ม.ค.51 ส่วนยางแท่งคงต้องเป็นช่วงหลังจากนั้น
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--