ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ลดลงแตะ$80.33 ขณะนลท.คาดอาจเผชิญภาวะอุปทานตึงตัว

          ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลงในวันนี้ (25 ก.ย.) และแม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลง แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดยังมีกระแสความหวั่นวิตกต่อภาวะอุปทานน้ำมันตึงตัวที่เกรงว่าจะส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำมันขาดตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวอยู่เหนือระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอยู่ในขณะนี้ 
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ณ เวลา 09.59 น.ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 62 เซนต์ สู่ระดับ 80.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับการซื้อขายที่สหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาที่ 80.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          โดยราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นทะลุระดับ 80 ดอลลาร์ตต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงต้นเดือนก.ย. ก่อนที่จะไต่ระดับสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 84.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จากกระแสความหวั่นวิตกว่าพายุที่เกิดขึ้นในฤดูเฮอริเคนอาจสร้างความเสียหายต่อโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในอ่าวเม็กซิโก
          นอกจากนี้ สถานการณ์ด้านอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีปริมาณการใช้พลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลกยังส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่ด้วยเช่นกัน
          โธบิน กอเรย์ นักวิเคราะห์จากธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลียกล่าวว่า สถานการณ์ความวิตกกังวลในตลาดน้ำมันเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว    
          ด้านเควิน นอร์ริช นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ แคปิตอลกล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในวันนี้ไม่น่าจะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญต่อพื้นฐานของตลาดที่ยังคงเผชิญภาวะตึงตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง       
          ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายดีเดียร์ ฮุสซิน ผู้อำนวยการด้านตลาดน้ำมันของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการกำหนดนโยบายด้านพลังงานให้กับประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกออกมาเตือนว่า ขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะนี้ เนื่องจากตลาดน้ำมันได้รับแรงกดดันด้านอุปสงค์-อุปทาน อีกทั้งยังมีปัจจัยจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและอินเดียอีกด้วย