ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ภาวะอุปทานตึงตัวดันราคาน้ำมันพุ่งปิด $76.70

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) จากความกังวลเกี่ยวกับอปุทานตึงตัวและการคาดการณ์ว่าโอเปคจะคงเป้าหมายการผลิตในการประชุมสัปดาห์หน้า
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 76.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 75.67-77 ดอลลาร์
          ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.64 เซนต์ ปิดที่ 2.1432 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.47 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1.9864 ดอลลาร์ต่อแกลลอน   
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ ปิดที่ 75.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัวเป็นปัจจัยผลักดันบางส่วน หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า น้ำมันดิบสำรองและน้ำมันเบนซีนร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปค จะไม่เปลี่ยนแปลงระดับการผลิตในการประชุมรัฐมนตรีน้ำมันที่กรุงเวียนนา ในวันอังคารหน้า
          ทั้งนี้ รายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนส.ค.ที่ลดลง 4,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการร่วงลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 110,000 ตำแหน่ง ได้กดให้สัญญาน้ำมันอ่อนตัวลงในช่วงแรกของการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าความฝืดเคืองด้านสินเชื่ออันเป็นผลมาจากปัญหาในอุตสาหกรรมจำนองบ้านกำลังจะขยายไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันถูกจำกัด
          อย่างไรก็ดี นักลงทุนเริ่มกลับมาซื้ออีกครั้งในช่วงท้ายของการซื้อขายเพื่อทำโพสิชั่นก่อนตลาดปิดในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งลินดา แรฟิลด์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัทวิจัยพลังงานแพรทท์เชื่อว่า เป็นการปรับตัวขึ้นตามธรรมดาของวันศุกร์