ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อไม่นานมานี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 4.55 เซนต์ ปิดที่ 2.0379 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 4.93 เซนต์ ปิดที่ 2.1813 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาก๊าซธรรมชาติส่งมอบเดือนต.ค.ขยับลง 1 เซนต์ ปิดที่ 6.36 ดอลลาร์ต่อ 1 พันลูกบาศก์ฟุต
นายเอดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากบริษัททีเอฟเอส เอ็นเนอร์จี ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันเนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากทะยานขึ้นติดต่อกัน 8 วันทำการและแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าราคาน้ำมันดิบเริ่มเข้าสู่ภาวะปรับฐาน"
ด้านนายสตีเฟน ชอร์ค นักวิเคราะห์จากเดอะ ชอร์ค รีพอร์ท รายงานว่า "การที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงถือเป็นการปรับฐานตามปกติ เพราะตามกลไกแล้วเมื่อราคาทะยานขึ้นหลายวันติดต่อกัน นักลงทุนก็จะเข้าเทขาย ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงมาก โดยพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว"
"เราคาดว่าถ้าสัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ย.ดิ่งลงทดสอบแนวรับทางจิตวิทยาที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไปได้ ราคาก็อาจจะดิ่งลงไปถึง 70 ดอลลาร์หรืออาจจะต่ำกว่า" นายชอร์คกล่าว
ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดยังขาดข้อมูลหรือข่าวคราวใหม่ๆเข้ามาเป็นปัจจัยชี้นำ จึงคาดว่านักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์คาดว่าน้ำมันสำรองจะลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองจะเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจทรงตัว ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันคาดว่าจะลดลง 0.9%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--