ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 13.90 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสำรองของสหรัฐที่ร่วงลงเกินคาด นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง นับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองทะยานขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 704.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 13.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 707.00-690.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 12.5330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 17.80 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.95 เซนต์ ปิดที่ 3.3025 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,288.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 15.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 340.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.55 ดอลลาร์
นายสจ๊วต คอฟแมน นักวิเคราะห์จากบริษัทเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "ราคาทองได้รับปัจจัยบวกทั้งจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ และราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าในยามที่ตลาดการเงินตกอยู่ในภาวะผันผวนเช่นนี้ ทองคำน่าจะเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด"
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.00% และธนาคารกลางอังกฤษประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.75% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--