ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง 21 เซนต์เมื่อคืนนี้ (17 ต.ค.) โดยราคาถอยร่นลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่าน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินสำรองพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมาย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่ตอนเหนือของอิรัก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 87.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.95-89.00 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.98 เซนต์ ปิดที่ 2.3189 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.รูดลง 2.71 เซนต์ ปิดที่ 2.1466 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 42 เซนต์ ปิดที่ 83.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 321.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 195.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 136.3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 539,000 บาร์เรลต่อวัน ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลง 230,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 53,000 ต่อวัน ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5 % สู่ 87.3 % สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 87.8%
นายทิม อีแวนส์ นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า "แม้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แต่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่ารัฐสภาตุรกีได้อนุมัติให้รัฐบาลนำกองกำลังทหารเข้าโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในพื้นที่ตอนเหนือของอิรัก นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสำคัญกับข่าวที่ว่า เกิดระเบิดขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กในรัฐมอนทานา"
เมื่อวานนี้ นายเรเซ็พ ตอยยิป เออร์โดแกน นายกรัฐมนตรีตุรกี ได้ประณามการกระทำของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ด (PKK) และยืนยันว่ากองกำลังตุรกีจะบุกเข้าโจมตีกลุ่ม PKK ที่กบดานอยู่ในพื้นที่ตอนเหนือของอิรักอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม นายนูรี อัล-มาลิกี นายกรัฐมนตรีอิรักเปิดเผยว่า อิรักจะส่งทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเมืองและความมั่นคงไปยังตุรกีเพื่อเจรจาเรื่องปัญหาชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยกล่าวว่ารัฐบาลอิรัก "จะไม่ยอมรับการแก้ปัญหาระหว่างประเทศด้วยการใช้กำลังทหาร แม้อิรักเข้าใจถึงความรู้สึกวิตกกังวลของตุรกีซึ่งเป็นมิตรประเทศก็ตาม"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--