ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ราคาน้ำมันขยับลงปิดที่ 80.05$ หลังดอลลาร์ฟื้นตัว

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง 19 เซนต์เมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เพราะได้รับอิทธิพลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลายสกุล ซึ่งทำให้นักลงทุนบางกลุ่มปลีกตัวออกจากตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 80.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับขึ้น 0.15 เซนต์ ปิดที่ 1.9828 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.รูดลง 1.84 เซนต์ ปิดที่ 2.1623 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 77.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือระดับ 83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนก.ย.นั้นเป็นเพราะแรงซื้อเก็งกำไรที่ส่งเข้ามาอันเนื่องจากดอลลาร์อ่อนตัวลง และมองว่าราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และอุปทาน
          ขณะเดียวกันราคาน้ำมันได้รับอิทธิพลจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ รวมทั้งฤดูพายุเฮอริเคนที่ใกล้จะสิ้นสุดลง และความต้องการน้ำมันเบนซินที่ลดลงตามฤดูกาล 
          นักลงทุนจับตาดูข้อมูลน้ำมันดิบสำรองที่กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าน้ำมันดิบสำรองจะลดลง 800,000 บาร์เรล น้ำมันเบนซินสำรองจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล และอัตราการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 86.9%
          นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากเอลารอน เทรดดิ้ง คาดว่า ราคาน้ำมันจะเคลื่อนตัวผันผวนมากขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า  หลังจากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า อาจเกิดพายุไซโคลนเขตร้อนในวันพุธ อย่างไรก็ตาม บริษัทน้ำมันหลายแห่งคาดว่าพายุลูกนี้จะไม่สร้างความเสียหายต่อการผลิตน้ำมัน