สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ข่าวที่ว่าโกลด์แมน แซคส์ แนะนำให้นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลง 3.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่ราคาทะยานขึ้นแตะดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 93.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
วาณิชธนกิจโกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับที่ควรแก่การขายทำกำไร หลังจากที่ราคาทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเร็วๆนี้ ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ได้แนะนำให้นักลงทุนปิดสถานะการซื้อ (long position) สัญญาน้ำมันดิบ ทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงมากมาย อาทิ สภาพอากาศอันหนาวเย็นที่จะทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นและเป็นเหตุให้เกิดภาวะขาดแคลนพลังงาน การที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความผันผวนด้านการเมืองระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันจะชะลอตัวลงอันเนื่องจากปัจจัยหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการที่ประเทศตะวันออกลางและแอฟริกาตะวันตกเพิ่มปริมาณการส่งออกน้ำมัน เศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงซึ่งจะทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย อัตราการกลั่นน้ำมันในประเทศจีนที่มีแนวโน้มลดลง และการซ่อมบำรุงบ่อน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียที่สิ้นสุดลง
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ได้แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมานั้นราคาน้ำมันเคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐาน และไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไร โดยย้ำว่าเม็ดเงินเก็งกำไรอยู่ที่ระดับเดียวกับในเดือนส.ค.เมื่อราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังคงเป้าหมายราคาน้ำมันในปี 2551 ไว้เท่าเดิมที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--