กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 321.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะร่วงลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 191.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 135.9 ล้านบาร์เรล ขัดแย้งกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 87.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 0.75%
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานรายงานว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยลดลง 189,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 10.25 ล้านบาร์เรล ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 102,000 บาร์เรล สู่ระดับ 1.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปริมาณความต้องการน้ำมันเบนซินลดลงสู่ระดับ 9.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่ารอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประณ 115,000 บาร์เรล
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--