ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ต.ค.) ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและแรงขายทำกำไรก่อนสัญญาเดือนพฤศจิกายนจะหมดอายุลง อย่างไรก็ดีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการหยุดยิงระหว่างทางการตุรกีกับกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในอิรักทำให้ราคาน้ำมันดิบกระเตื้องขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 3.53 เซนต์ ปิดที่ 2.1334 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับลง 1.97 เซนต์ ปิดที่ 2.3109 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ได้ทำให้เกิดความกังวลปกคลุมไปทั่วว่าเศรษฐกิจอาจชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลง
โดยเทรดเดอร์ได้ขายทำกำไรหลังจากที่สัญญาน้ำมันทะยานขึ้นเกือบ 14% ในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ ซึ่งเควิน ซาวิล บรรณาธิการบริหารจากแพลทท์ บริษัทวิจัยด้านพลังงานของแมคกรอว์-ฮิลล์ กล่าวว่า เมื่อราคาพุ่งขึ้นไปถึง 90 ดอลลาร์ นักลงทุนก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะขายทำกำไร
อย่างไรก็ดี มีแรงซื้อกลับมาบ้างก่อนปิดการซื้อขาย เนื่องจากเกิดความหวั่นเกรงว่าการสงบศึกระหว่างตุรกีและกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดอาจไม่ส่งผลใดๆมากนัก
โดยก่อนหน้านี้ ตุรกีปฏิเสธข่าวการหย่าศึก ระบุจะต่อสู้ไปจนกว่ากลุ่มกบฏจะยอมแพ้หรือจนกว่าจะสังหารกลุ่มกบฏได้ทั้งหมด และเมื่อวานนี้ มีรายงานว่ากองกำลังของตุรกีเคลื่อนตัวเข้าใกล้พรมแดนอิรัก หลังจากที่ถูกกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดโจมตีจนทำให้ทหาร 12 นายต้องเสียชีวิตและ 8 นายสูญหาย ซึ่งผู้ค้าน้ำมันเกรงว่าการบุกเข้าอิรักของกองกำลังตุรกีอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--