ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: ต่างชาติแห่ซื้อ ดันราคาน้ำมันพุ่งปิดที่ 89.47$

          ราคาน้ำมันตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นร้อนแรงที่เหนือระดับ 89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (18 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติแห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคับคั่งหลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 3.85 เซนต์ ปิดที่ 2.1851 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.04 เซนต์ ปิดที่ 2.3493 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายเจมส์ คอร์ดิเยร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทลิเบอร์ตี้ เทรดดิ้ง กรุ๊ป ในรัฐฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า "ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำนิวไฮติดต่อกัน 5 วัน อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน อาทิ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงซึ่งดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างคึกคัก และการเก็งกำไร"
          "นอกจากนี้ ข่าวที่ว่ากองกำลังทหารตุรกีเตรียมบุกกวาดล้างกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในอิรัก ก็เป็นอีกปัจจัยที่ดันราคาน้ำมันพุ่งขึ้นด้วย" นายคอร์ดิเยร์กล่าว
          รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องตุรกีให้ใช้ความอดทนอดกลั้น หลังจากรัฐสภาตุรกีอนุมัติให้ส่งกองกำลังทหารข้ามแดนไปโจมตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ด (PKK) ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของอิรัก ขณะที่นายจาลัล ตาลาบานี ประธานาธิบดีอิรักซึ่งกำลังเดินทางเยือนฝรั่งเศสนั้น เรียกร้องให้ตุรกีระงับแผนส่งทหารเข้ามาปราบปรามกลุ่ม PKK และเรียกร้องให้กลุ่มกบฏ PKK ยุติการสู้รบ
          อย่างไรก็ตาม นายอับดุลลาห์ กุล ประธานาธิบดีตุรกี ประกาศกร้าวว่าจะทำทุกวิถีทางเท่าที่จำเป็นเพื่อต่อต้านกลุ่ม PKK ซึ่งรวมถึงการส่งทหารข้ามแดนไปยังตอนเหนือของอิรัก หลังจากที่ทหารตุรกี 13 นายถูกสังหารเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา          
          กลุ่ม PKK ซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มก่อการร้ายของตุรกี สหรัฐ และสหภาพยุโรป เริ่มใช้ความรุนแรงเพื่อแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 สร้างความขัดแย้งในประเทศตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 30,000 คน
         กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 321.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
          ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 195.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 136.3 ล้านบาร์เรล  สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
          นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 539,000 บาร์เรลต่อวัน ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลง 230,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 53,000 ต่อวัน ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5 % สู่ 87.3 % สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 87.8%