ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังจากมีข่าวว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะยังไม่เพิ่มปริมาณการผลิตในเร็วๆนี้ และข่าวที่ว่าโอเปคจะยังไม่ประกาศเพิ่มโควต้าการผลิตครั้งใหม่ในการประชุมเดือนหน้านี้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 3.36 ดอลลาร์ แตะระดับ 90.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดระดับใหม่ที่ 90.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 8.83 เซนต์ ปิดที่ 2.2358 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 6.64 เซนต์ ปิดที่ 2.4084 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
นายอัลดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปคกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เอเชีย ว่า โอเปคจะไม่หารือกันเรื่องการเพิ่มผลผลิตน้ำมันอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันตามที่หลายฝ่ายคาดคะเนกันไว้ โดยการให้สัมภาษณ์ของนายเอล-บาดรี ถือเป็นการสยบข่าวลือที่ว่าซาอุดิอาระเบียกำลังผลักดันให้โอเปคเพิ่มการผลิตน้ำมัน หลังจากที่โอเปคเคยยอมทำตามแรงกดดันของซาอุดิอาระเบียด้วยการประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมัน 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในการประชุมครั้งก่อน
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กถูกปกคลุมด้วยความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจเผชิญภาวะวิกฤติด้านพลังงานหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 19 ต.ค.ร่วงลง 5.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 316.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองร่วงลง 2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 150,000 บาร์เรล
ส่วนปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันได้แก่ข่าวที่ว่า บริษัทบีพียอมจ่ายเงิน 373 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีแพ่งและคดีอาญา หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลในรัฐอลาสก้าและเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่โรงงานในรัฐเท็กซัส
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าที่รุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยรายงานล่าสุดระบุว่าประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศภาวะภัยพิบัติครั้งใหญ่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย และประกาศว่ารัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ไฟไหม้ป่าโหมที่ลุกลามเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ความช่วยเหลือประกอบด้วย ที่พักอาศัยชั่วคราวและการซ่อมแซมบ้านเรือน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อชดเชยการสูญเสียทรัพย์สินที่ไม่ได้ทำประกันไว้ และโครงการอื่นๆเพื่อช่วยเหลือบุคคลและเจ้าของธุรกิจให้ฟื้นตัวจากความเสียหายในครั้งนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--