ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะระดับ 91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันนี้ (26 ต.ค.) ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่กองกำลังตรุกีบุกโจมตีกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดในอิรัก และจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่ออิหร่าน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 08.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งสูงขึ้น 45 เซนต์ แตะที่ 90.91ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ 90.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันได้ทะยานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ที่ 91.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ทะเลเหนือส่งมอบเดือนธ.ค.ก็พุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่เช่นกันที่ 52 เซนต์แตะระดับ 88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดน้ำมันลอนดอนเมื่อคืนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงก์ในออสเตรเลีย แสดงความเห็นว่า ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเพราะได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีที่สหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ และสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างตุรกีและกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดในอิรักที่กำลังทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้
โดยเมื่อวานนี้ ผู้นำตุรกีได้ใช้กำลังเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทางตอนเหนือของอิรัก
นักวิเคราะห์หล่าวว่า การที่อิรักซึ่งมีบ่อน้ำมันทางตอนเหนืออยู่หลายแห่งมีความขัดแย้งกับตุรกีนั้นอาจส่งผลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันได้
นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดยังพุ่งสูงขึ้นจากปัจจัยด้านปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์นี้ ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ตลาดจะจับตาความเคลื่อนไหวด้านอุปทานน้ำมันในสหรัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศที่มีปริมาณการใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--