ราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์พุ่งแตะ $87.95 หลังปริมาณน้ำมันสำรองสหรัฐทรุด

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 25, 2007 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ (25 ต.ค.) จากรายงานที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่เครื่องบินรบของตุรกีบินเข้าทิ้งระเบิดโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของอิรัก
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 09.45 น. ตามเวลาในประเทศไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค. และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์พุ่งสูงขึ้น 85 เซนต์ แตะที่ 87.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากระดับปิดที่ 87.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์ก หลังจากที่สัญญาซื้อขายเมื่อคืนนี้พุ่งขึ้นถึง 1.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลหลังจากที่กระทรวงพลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 19 ต.ค.ร่วงลง 5.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 316.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ของธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองร่วงลง 2 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 150,000 บาร์เรล
นายดาริอุส โควาลซิก นักวิเคราะห์จากซีเอฟซี เซย์มัวร์ ซีเคียวริตี้ ในฮ่องกง กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองและน้ำมันอื่นๆที่ร่วงลงอย่างหนักได้ตอกย้ำว่าตลาดถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเริ้อวปริมาณการผลิตน้ำมัน
เขากล่าวว่า "น้ำมันดิบสำรองปรับตัวลดลงอย่างมากและสวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งจากสถานการณ์เช่นนี้ยิ่งตอกย้ำถึงภาวะตึงตัวของอุปทานน้ำมันในตลาดโลก"
นอกจากนี้เหตุการณ์ทิ้งระเบิดโจมตีจากเครื่องบินรบของกองกำลังตุรกีที่พุ่งเป้าทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏแบ่งแบกดินแดนชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของอิรัก ยิ่งทำให้นักลงทุนเกิดความหวั่นวิตกต่อราน้ำมันมากยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ