กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 321.9 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 195.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยับขึ้นเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรอง ซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 136.3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 400,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 539,000 บาร์เรลต่อวัน ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินลดลง 230,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 53,000 ต่อวัน ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.5 % สู่ 87.3 % สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 87.8%
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--