ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: แรงขายทำกำไร ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ 79.02$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 2.20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยนักลงทุนตัดสินใจเทขายทำกำไรในสัญญาเดือนพ.ย.หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศยกเลิกภาวะสุดวิสัยที่โรงกลั่นน้ำมันในไนจีเรีย
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 79.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 4.91 เซนต์ ปิดที่ 2.0002 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 6.39 เซนต์ ปิดที่ 2.1596 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย.ดิ่งลง 1.84 ดอลลาร์ ปิดี่ 76.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายทอม โคลซา นักวิเคราะห์จากบริษัทออยล์ ไพรซ์ อินฟอร์เมชัน เซอร์วิส กล่าวว่า นักลงทุนตัดสินใจเทขายทำกำไรหลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศว่า บริษัทจะเพิ่มปริมาณการผลิตที่โรงกลั่นในไนจีเรีย หลังจากโรงกลั่นแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์รุนแรงเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายมีอยู่เพียงบางเบาเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ปลีกตัวออกนอกตลาด เนื่องจากหน่วยงานราชการของสหรัฐปิดทำการเนื่องในวันโคลัมบัส และเนื่องจากเป็นวันหยุดในญี่ปุ่น
          "ภาวะการซื้อขายในวันจันทร์เงียบเหงามาก และสภาพคล่องก็มีอยู่น้อยมาก นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาน้ำมันดิบเดือนพ.ย.หลังจากบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ประกาศยกเลิก "ภาวะสุดวิสัย" ที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทในไนจีเรีย ซึ่งโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตน้ำมันได้ 380,000 บาร์เรล" นายโคลซากล่าว
          กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น  1.2 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 321.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะร่วงลง 1.7 ล้านบาร์เรล
          ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองปรับตัวลง 100,000 บาร์เรล แตะระดับ 191.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 135.9 ล้านบาร์เรล ขัดแย้งกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
          ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 87.5%  ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จะเพิ่มขึ้น 0.75%
          นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานรายงานว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐโดยเฉลี่ยลดลง 189,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 10.25 ล้านบาร์เรล ขณะที่ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 102,000 บาร์เรล สู่ระดับ 1.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปริมาณความต้องการน้ำมันเบนซินลดลงสู่ระดับ 9.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำกว่ารอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ประณ 115,000 บาร์เรล