ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 3.28 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังชะลอตัวลงอาจทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงด้วย และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) อาจจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับอิทธิพลจากข่าวที่ว่าการประชุมสุดยอดตะวันออกกลางซึ่งจัดขึ้นที่รัฐแมรีแลนด์นั้น มีความคืบหน้าขึ้นมาก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ( New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 3.28 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.32 เซนต์ ปิดที่ 2.6534 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.รูดลง 6.84 เซนต์ ปิดที่ 2.373 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ดิ่งลง 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบได้รับอิทธิพลจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า โอเปคอาจจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตในการประชุมวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่า นายอาลี อัล-ไนมี รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบียที่กล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันขึ้นเป็น 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อตกลงที่ทำไว้เมื่อวันที่ 1 พ.ย.
ขณะที่รมว.พลังงานของอิหร่านกล่าวว่า สมาชิกบางประเทศในกลุ่มโอเปคต้องการปรับเพิ่มปริมาณการผลิต และรมว.อินโดนีเซียกล่าวว่าอินโดนีเซียจะสนับสนุนให้โอเปคปรับเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน
นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดลงด้วย โดยสำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 87.3 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 95.2 ในเดือนต.ค. และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2548
ก่อนหน้านี้โอเปคได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2550 ลง 0.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปรับลดคาดการณ์ในปีหน้าลง 0.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2550-2551 โดยอ้างถึงสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งทะยานขึ้นใกล้แตะระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้ฉุดให้ความต้องการด้านพลังงานปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ IEA คาดว่า ความต้องการน้ำมันโดยเฉลี่ยในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 85.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง160,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งประเมินว่าความต้องการน้ำมันในปี 2551จะอยู่ที่ 87.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลงถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน
กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองในคืนนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยนักวิเคราะห์คาดว่า น้ำมันดิบสำรองอาจลดลง 800,000 บาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--