ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.70 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากนายอาลี อัลไนมี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า โอเปคอาจจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange ) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดร่วงลง 1.70 ดอลลาร์ แตะระดับ 94.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดที่ 93.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.67 เซนต์ ปิดที่ 2.5821 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.รูดลง 3.95 เซนต์ ปิดที่ 2.4165 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 1.3 % ปิดที่ 91.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รัฐมนตรีอัลไนมีกล่าวกับผู้สื่อข่าวของดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ที่เมืองริย้าด ประเทศซาอุดิอาระเบียว่า "โอเปคจะหารือเรื่องการเพิ่มการผลิตน้ำมันในการประชุมที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเดือนหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะลดความร้อนแรงของราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล"
การแสดงความเห็นของรมว.น้ำมันซาอุดิอาระเบียเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงนโยบายที่ไม่แน่นอนของกลุ่มโอเปค โดยก่อนหน้านี้ประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มโอเปคเคยยืนยันว่าตลาดมีปริมาณน้ำมันดิบในระดับสูง และการเพิ่มการผลิตขึ้นแทบจะไม่ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันคลายความร้อนแรงลงได้ เพราะราคาน้ำมันถูกผลักดันจากนักเก็งกำไร, ความตึงเครียดทางการเมือง และความอ่อนแอของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันร่วงลงยังเป็นผลมาจากความเห็นของนายโอเดียน เอจูโมโกเบีย รมว.พลังงานของไนจีเรียซึ่งกล่าวว่า "ตลาดไม่ได้เคลื่อนไหวตามปัจจัยพื้นฐาน และราคาน้ำมันที่จะพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้จะเป็นเพียงสถานการณ์ช่วงสั้นๆเท่านั้น"
นายเอ็ดเวิร์ด แมร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า "ทันทีที่รัฐมนตรีซาอุดิอาระเบียออกมาแสดงความคิดเห็นดังกล่าว นักลงทุนก็เริ่มเทขายทำกำไร เพราะซาอุดิอาระเบียเป็นสมาชิกที่มีอิทธิพลที่สุดในกลุ่มโอเปค นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ของสหรัฐ"
กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะเปิดเผยล่าช้ากว่าปกติหนึ่งวันเนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางสหรัฐเนื่องในวันทหารผ่านศึก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 400,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--