ภาวะตลาดทองคำ NYMEX: ราคาทองปิดพุ่ง 7.50 ดอลล์ หลังเฟดลดดอกเบี้ย

          ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) และในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกภายหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้วนั้น ราคาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2523 หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25%
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 795.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 780-796.70 ดอลลาร์
          ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 14.438 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 11.0 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงปรับตัวลง 0.85 เซนต์ ปิดที่ 3.473 ดอลลาร์ต่อปอนด์
          สัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,447.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 374.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พุ่งขึ้น 2.45 ดอลลาร์
          เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.50% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดได้ดึงดูดนักลงทุนให้เข้าเทรดในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคับคั่ง ซึ่งรวมถึงตลาดทองคำและตลาดน้ำมัน
          นายคีท เฮอร์เดิล ผู้บริหารบริษัทเฮอร์เดิลส์ จิเวลรี ในรัฐโคโลราโด กล่าวว่า "ตลาดทองคำได้รับอิทธิพลจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงหลังจากเฟดลดอกเบี้ย และการที่ราคาทองคำทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกนั้น กลายเป็น 'ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์' ทันที "