ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX:ข่าวท่อส่งน้ำมันระเบิด ดันน้ำมันพุ่งปิดที่ 91.01$

          ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) หลังจากมีข่าวว่าเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ท่อส่งน้ำมันที่ลำเลียงจากแคนาดามายังเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลเรื่องภาวะติดขัดในการลำเลียงน้ำมัน
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 91.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.09 เซนต์ ปิดที่ 2.2648 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 0.33 เซนต์ ปิดที่ 2.5771 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 41 เซนต์ ปิดที่ 90.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
          นายทิม อีแวน นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า นักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่าเกิดระเบิดที่ท่อส่งน้ำมันของบริษัทเอ็นบริดจ์ เอ็นเนอร์จี พาร์ทเนอร์ แอลพี เลคเฮด ทางตอนเหนือของรัฐมินเนสโซต้า ซึ่งลำเลียงน้ำมันดิบจากเมืองซัคคาเชวันไปยังชิคาโก เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้พนักงานซ่อมบำรุงเสียชีวิต 2 คน
          แต่บรรยากาศการซื้อขายในตลาดสงบลงเมื่อมีข่าวว่า แม้เหตุระเบิดให้การดำเนินงานหยุดชะงักลง แต่บริษัทก็สามารถให้บริการได้อีกครั้ง และคาดว่าจะสามารถซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหายได้ภายในไม่กี่วัน
          นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกกังวลลงเมื่อรัฐบาลสหรัฐเสนอว่า หาเกิดภาวะติดขัดขึ้น รัฐบาลก็จะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาเพื่อชดเชย
          ในเบื้องต้นนั้น เหตุระเบิดทำให้ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้น 5% แตะระดับ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้นๆ เนื่องจากท่อส่งน้ำมันแห่งนี้จัดส่งน้ำมันดิบของแคนาดามากกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันไปยังเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ซึ่งแคนาดาเป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำมันดิบรายใหญ่ของสหรัฐ 
          นายแลร์รี สปริงเกอร์ โฆษกของบริษัทเอ็นบริดจ์กล่าวว่า โดยปกติแล้วท่อส่งน้ำมันของบริษัทเอ็นบริดจ์สามารถลำเลียงน้ำมันดิบได้ 680,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งขณะนี้บริษัทสามารถดำเนินการลำเลียงน้ำมันได้แล้ว