กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ย.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 314.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียลคาดการณ์ว่าจะร่วงลง 1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 133.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 650,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองเพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล แตะระดับ 195.0 ล้าน บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงระบุว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 831,000 บาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 10.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันโดยรวมในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 20.59 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.7% จากปีที่แล้ว
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--