ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 3.45 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประกาศลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก และระบุว่าน้ำมันดิบสำรองกำลังปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.98 เซนต์ ปิดที่ 2.3167 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับลง 8 เซนต์ ปิดที่ 2.5021 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 88.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
IEA คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันทั่วโลกโดยเฉลี่ยในปี 2550 จะอยู่ที่ระดับ 85.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลงจากรายงานเมื่อเดือนที่ผ่านมาถึง 160,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าความต้องการน้ำมันโดยรวมในไตรมาส 4 ปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 87.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้ถึง 500,000 บาร์เรลต่อวัน อีกทั้งคาดว่าความต้องการน้ำมันในกลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียตจะต่ำลงกว่าที่คาดการณ์
นอกจากนี้ IEA ยังได้ประเมินว่า ความต้องการน้ำมันในปี 2551 จะมีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ 87.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวลดลงจากรายงานในก่อนหน้านี้ถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน
"ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดความตื่นตระหนกในระยะสั้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเริ่มปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานเพื่อรับมือกับราคาน้ำมันรายปีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในครั้งนี้จะเกิดขึ้นอย่างถาวรในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขององค์กรความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)" IEA กล่าวในแถลงการณ์
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงหลังจากคณะทูตของสหรัฐเปิดเผยว่า อิหร่านได้ส่งมอบแผนภูมิโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งตรงตามความต้องการของสหประชาชาติ
"นอกเหนือจากการที่ IEA ลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันแล้ว ข่าวอิหร่านยอมอ่อนข้อเรื่องโครงการนิวเคลียร์นับเป็นอีกปัจจัยที่กดราคาน้ำมันร่วงลง" นายฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้งกล่าว
นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวจากกลุ่มโอเปคก่อนที่การประชุมโอเปคจะเริ่มขึ้นที่เมืองริย้าด ประเทศซาอุดิอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า นายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย ความหวั่นเกรงว่าจะเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันดิบนั้นเป็นเรื่องที่กลัวกันไปเอง และไม่มีเหตุผลที่กลุ่มโอเปคจะผลักดันให้ราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้
"ราคาน้ำมันในปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานเลย ผมเชื่อว่ากลุ่มโอเปค และโดยเฉพาะซาอุดิอาระเบียเอง ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราในการรับมือกับภาวะชะงักงันต่างๆได้อย่างรวดเร็วมาก" นายไนมีกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงริย้าด
กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองในวันพฤหัสบดีนี้ โดยจะเปิดเผยล่าช้ากว่าปกติหนึ่งวันเนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางสหรัฐเนื่องในวันทหารผ่านศึก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 400,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--