ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 2.92 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะเพิ่มปริมาณการผลิตในการประชุมสุดสัปดาห์นี้ตามที่ตลาดคาดการณ์หรือไม่ นอกจากนี้ การที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนวางแผนที่จะนำรถยนต์ออกไปขับขี่เพื่อพักผ่อนในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ดันราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 5.37 เซนต์ ปิดที่ 2.3704 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.บวกขึ้น 7.13 เซนต์ ปิดที่ 2.5734 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายจอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า นักลงทุนจับตาการประชุมโอเปคซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ โดยนักลงทุนกังวลว่าโอเปคอาจไม่เพิ่มปริมาณการผลิต หลังจากนายอับดุลเลาะห์ อัล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มโอเปค เปิดเผยว่า ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดมีมากอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้นาย อาลี อัล-นูไอมี รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า โอเปคจะยังไม่หารือกันเรื่องการปรับเพิ่มผลผลิตน้ำมันในการประชุมระหว่างวันที่ 17-18 พ.ย.นี้ที่กรุงริยาดห์ แต่การประชุมจะมุ่งเน้นไปที่ยุทธศาสตร์ระยะยาวเสียมากกว่า โดยยืนยันว่าโอเปคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับทิศทางราคาน้ำมันในปัจจุบันนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลน้ำมันสำรองซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันพฤหัสบดี โดยจะเปิดเผยล่าช้ากว่าปกติหนึ่งวันเนื่องจากวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันหยุดของรัฐบาลกลางสหรัฐเนื่องในวันทหารผ่านศึก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นจะลดลง 700,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองจะลดลง 400,000 บาร์เรล
"ชาวอเมริกันส่วนใหญ่กำลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานบริการข้อมูลด้านราคาน้ำมันบ่งชี้ ครัวเรือนที่มีรายได้ปานกลางมีต้นทุนเชื้อเพลิงประมาณ 3.8% ของรายได้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.9% ในปี 2545" นายคิลดัฟฟ์กล่าว
"เทศกาลคริสต์มาสและเทศกาลขอบคุณพระเจ้ากำลังมาเยือน ชาวอเมริกันหลายล้านคนวางแผนนำรถยนต์ออกไปขับขี่เพื่อพักผ่อนในวันหยุด ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวจะทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นและทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน" เขากลาว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--