ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 2.72 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานในตลาดโลก หลังจากเกิดเหตลอบวางระเบิดในอัฟกานิสถานและเหตุการณ์โจมตีท่อส่งน้ำมันในเยเมน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะร่วงลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 2.72 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 96.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากทะยานขึ้นไปแตะระดับ 97.10 ดอลลาร์ในระหว่างวัน
ขณะที่สัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 5.39 เซนต์ ปิดที่ 2.435 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.39 เซนต์ ปิดที่ 2.6078 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ทะยานขึ้น 2.77 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายจอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอ็มเอฟ โกลบอล ยูเค กล่าวว่า "ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับอิทธิพลจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในพื้นที่ตอนเหนือของอัฟกานิสถานซึ่งคร่าชีวิตประชาชน 28 คน และเหตุการณ์ลอบโจมตีท่อส่งน้ำมันในเยเมน อีกทั้งการคาดการณ์ที่ว่าสภาพอากาศในภูมิภาคทะเลเหนือจะแปรปรวน และค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง"
"แม้อัฟกานิสถานไม่ได้ผลิตน้ำมันมากนัก แต่เทรดเดอร์มองว่ามีความเป็นไปได้ว่าความขัดแย้งระหว่างกองกำลังทหารสหรัฐและกลุ่มหัวรุนแรงชาวมุสลิมจะลุกลามไปสู่ประเทศอื่นๆ ซึ่งจะทำให้การลำเลียงน้ำมันนอกภูมิภาคตะวันออกกลาง ติดขัดได้" นายคิลดัฟฟ์กล่าว
"นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวลอบวางระเบิดท่อส่งน้ำมันในเยเมน ซึ่งท่อแห่งนี้สามารถลำเลียงน้ำมันดิบได้ 155,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันเทรดเดอร์คาดว่าน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะปรับตัวลดลง หลังจากบริษัทพีเม็กซ์ของรัฐบาลเม็กซิโกประกาศระงับการผลิตเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" เขากล่าว
ในคืนนี้ กระทรวงพลังงานจะเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 2 พ.ย. โดยนักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะร่วงลงอีก 1.6 ล้านบาร์เรล และคาดว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ไปจนถึงปีหน้าแม้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าน้ำมันเบนซินสำรองจะเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล และคาดว่าน้ำมันกลั่นสำรองจะลดลง 500,000 บาร์เรล อีกทั้งคาดว่าอัตราการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.8% แตะระดับ 87%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--