ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.95 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลว่าภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่ออาจส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งอาจทำให้ความต้องการพลังงานและวัตถุดิบประเภทอื่นๆลดน้อยลงด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.72-96.12 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาราคาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.รูดลง 2.98 เซนต์ ปิดที่ 2.5439 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.84 เซนต์ ปิดที่ 2.3811 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 90.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายเอ็ดเวิร์ด แมร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอล กล่าวว่า นักลงทุนส่งแรงขายทำกำไรเข้ากดดันสัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนธ.ค. หลังจากซิตี้กรุ๊ปประกาศแผนตั้งสำรองการขาดทุนในตลาดซับไพรม์เพิ่มขึ้นอีกกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการประกาศแผนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายชาร์ลส์ พรินซ์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป ประกาศลาออกในช่วงเช้าวานนี้
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดสินเชื่อมากขึ้นเมื่อแรนดัลล์ ครอสเนอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวในที่ประชุมสมาคมนายธนาคารที่กรุงวอชิงตัน ว่า ตลาดซับไพรม์อาจจะถดถอยลงอีก ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงรุนแรงกว่าเดิม และผลสำรวจธนาคารพาณิชย์ซึ่งจัดทำขึ้นโดยเฟด ระบุว่า ลูกค้าของธนาคารผู้ปล่อยกู้มีการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจต่อความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งเรื่องโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตก การประกาศภาวะฉุกเฉินในปากีสถาน และการที่กองกำลังทหารตุรกีขู่จะบุกพื้นที่ตอนเหนือของอิรักเพื่อกวาดล้างกลุ่มกบฏชาวเคิร์ด
ในวันพุธนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลน้ำมันสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 2 พ.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า น้ำมันดิบสำรองจะลดลงอีก 1.6 ล้านบาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--