ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 80 เซนต์เมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากมีข่าวว่าประเทศสมาชิกโอเปคบางประเทศจะเปลี่ยนจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ไปถือสกุลเงินยูโรแทน และจากกระแสข่าวที่ว่าโอเปคอาจจะเพิ่มผลผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 94.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.16-95.15 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออลย์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 1.71 เซนต์ ปิดที่ 2.6042 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.62 เซนต์ ปิดที่ 2.3816 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทะยานขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 92.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในการประชุมโอเปคเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่าควรจะดำเนินการเรื่องค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงหรือไม่ นอกจากนี้ รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดหาน้ำมันให้กับกลุ่มผู้ใช้น้ำมันในประเทศตะวันตกอย่างเพียงพอ
ประธานาธิบดีมาห์หมุด อามาดิเนจ้าด ของอิหร่าน กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการซื้อขายน้ำมันด้วยสกุลเงินอื่นๆ แทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์และการที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศตะวันตกกำหนดภาษีในระดับสูงนั้น ทำให้โอเปคไม่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันในปัจจุบัน
"การแสดงความเห็นของประธานาธิบดีอิหร่านที่ตีตราสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐว่าเป็น "เศษเงินที่ไม่มีค่า" ทำให้ประเทศสมาชิกโอเปคบางประเทศหันมาให้ความสนใจที่จะเปลี่ยนจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ไปเป็นสกุลเงินยูโรแทน" นายวิคเตอร์ ชูม นักวิเคราะห์จากบริษัทเพอร์วิน แอนด์ เกิร์ซ กล่าว
ในการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีกลุ่มโอเปคไม่มีการหารือกันเรื่องการเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเรื่องผลผลิตน้ำมันในระยะสั้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าโอเปคอาจจะไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตในการประชุมครั้งหน้าซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังจากรัฐมนตรีโอเปคส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า ปัจจัยพื้นฐานด้านอุปสงค์และอุปทานของน้ำมันในตลาดโลกไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจนเกือบแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าน้ำมันดิบสำรองอาจเพิ่มขึ้น1.2 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจลดลง 500,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--