ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 3.39 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (20 พ.ย.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนตลาดอย่างหนาแน่นอันเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง รวมทั้งข่าวที่ว่าเกิดปัญหาขึ้นที่โรงกลั่นบางแห่งในสหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.39 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 93.99-98.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดขึ้น 8.59 เซนต์ ปิดที่ 2.6901 ดอลลาร์ต่อแกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 6.99 เซนต์ ปิดที่ 2.4525 ดอลลาร์ต่อแกลลอน
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 3.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 95.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นายเฟรด โรเซลล์ นักวิเคราะห์จากออยล์ ไพรซ์ อินฟอร์เมชัน เซอร์วิส กล่าวว่า "การที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงหมายความว่าสัญญาน้ำมันดิบมีราคาถูกลงด้วย เนื่องจากธุรกรรมการซื้อขายในตลาดอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ดังนั้น กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยได้ฉุดค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอีก และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเห็นนักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบอย่างหนาแน่น"
ดอลลาร์ร่วงลงสู่สถิติต่ำสุดเมื่อเทียบกับยูโรในวันอังคาร หลังจากเฟดแถลงผ่านรายงานการประชุมประจำเดือนต.ค.ว่า ภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย ความตึงตัวด้านสินเชื่อ และราคาน้ำมันที่ระดับสูง มีแนวโน้มที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอการเติบโตลงในปี 2551
"เราคาดว่าการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยนั้น จะยิ่งฉุดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอีก และจะดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบมากขึ้น" นายแอดดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จากทีเอฟเอส เอนเนอร์จี ฟิวเจอร์สกล่าว
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันทะยานขึ้นหลังจากมีข่าวว่าเกิดปัญหาขึ้นที่โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทวาเลโร เอนเนอร์จี ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี จนทำให้โรงกลั่นต้องปิดดำเนินการเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งโรงกลั่นแห่งนี้สามารถผลิตน้ำมันได้ 180,000 บาร์เรลต่อวัน และข่าวที่ว่าโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต้องปิดดำเนินการชั่วคราวเนื่องจากเกิดเพลิงไหม้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับอิทธิพลจากข่าวที่ว่าประธานาธิบดีมาห์หมุด อามาดิเนจ้าด ของอิหร่าน โน้มน้าวให้ประเทศสมาชิกโอเปคเปลี่ยนจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐไปถือสกุลเงินยูโรแทน โดยให้เหตุผลว่าการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์และการที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศตะวันตกกำหนดภาษีในระดับสูงนั้น ทำให้โอเปคไม่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันในปัจจุบัน
นักลงทุนจับตาดูรายงานน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าน้ำมันดิบสำรองอาจเพิ่มขึ้น1.2 ล้านบาร์เรล น้ำมันกลั่นสำรองอาจลดลง 500,000 บาร์เรล และน้ำมันเบนซินสำรองอาจเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--