ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สดใสและประสิทธิภาพการผลิตของคนงานภายในประเทศที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 ปี
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 803.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ร่วงลง 3.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 797-813 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 14.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 3.04 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,468.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดิ่งลง 4.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 354.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์
นายเอ็ดเวิร์ด แมร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟ โกลบอลกล่าวว่า "ตัวเลขจ้างงานที่สดใสในภาคเอกชนของสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนค่าเงินดอลลาร์ให้แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ เยน และยูโร แต่เป็นปัจจัยลบที่กดราคาทองร่วงลง เราคาดว่าตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเมื่อคืนนี้อาจสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลกดดันตลาดทองคำอีกระลอก"
ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนในสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 189,000 อัตราในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตนอกภาคเกษตรหรือผลผลิตรายชั่วโมงต่อคนงาน เพิ่มขึ้น 6.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2546 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.7%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--