กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 8 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 305.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยับลงเพียง 700,000 บาร์เรล
ขณะที่น้ำมันเบนซินสำรองพุ่งขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 200.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมน้ำมันฮีทติ้งออยล์และดีเซล เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 132.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 300,000 บาร์เรล
อัตราการกลั่นน้ำมันทรงตัวที่ 89.4% ยอดนำเข้าน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลง 980,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยอดนำเข้าน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 334,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนความต้องการน้ำมันเบนซินลดลง 90,000 บาร์เรลต่อวัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า น้ำมันดิบสำรองข้างต้นไม่นับรวมกับคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve) ของสหรัฐซึ่งปัจจุบันมีน้ำมันดิบสำรองอยู่ประมาณ 689 ล้านบาร์เรล แต่ต่อมาประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ ประกาศให้ปรับเพิ่มคลังน้ำมันสำรองประเภทดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลภายในปี 2570 เพื่อรับมือกับภาวะติดขัดที่อาจเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--